วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ย้อนสมัยวัยเด็ก…เข้าแถวร้องเพลงชาติไทย

เริ่มเข้าสู่ปีใหม่มา หลายคนก็เริ่มกางนิ้วนับอายุกันแล้ว ฉันก็เช่นกัน แต่อาจต้องใช้นิ้วคนอื่นมาช่วยด้วย เพราะลำพังยี่สิบนิ้วน้อยๆที่มีคงยังไม่พอ เลขสามแล้วค่ะคุณขา แอบ Strong เบาๆ ด้วยความมั่นเบ้าในใบหน้า เมื่อนับอายุตัวเองดูแล้วก็ทำให้เกิดความคิดหลายๆอย่าง ต่างๆนานา เข้ามาในสมองอยู่เรื่อยๆ บางครั้งก็ครั้งก็คิดย้อนไปถึงวัยเด็ก คิดๆแล้วก็ขำ เราผ่านจุดๆนั้นมาได้อย่างไร จุดที่เรายืนเข้าแถวตัวดำมืด ท่ายืนตรงเป๊ะ!! เข้าแถวเคารพธงชาติหน้าเสาธงทุกเช้า แล้วเปล่งเสียงร้องเพลงชาติไทยด้วยความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ประหนึ่งว่าเมื่อวานพึ่งกลับจากการไปออกรบกับพม่ารามัญ พูดก็พูดเถอะ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็จะยังคงเปล่งเสียงร้องด้วยความภาคภูมิเหมือนเดิม ด้วยความที่เป็นเด็กต่างจังหวัดใสๆซื่อๆ ใครสอนอย่างไรก็ทำอย่างนั้น
เมื่อตอนเด็ก จำได้เลยตอนนั้นเรียนประถมศึกษาอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งในภูมิลำเนาบ้านเกิดทางแถบอีสาน ด้วยฐานะทางบ้านที่ค่อนข้างไปทางรากหญ้า พ่อแม่ก็ส่งให้เรียนโรงเรียนวัดใกล้ๆบ้าน เพราะก็ไม่ได้คิดว่าการศึกษาจะมีความสำคัญกับชีวิตอะไรขนาดนั้น แต่ผิดค่ะ ผิดอย่างแรงเลย การศึกษานี่แหละสำคัญมากๆโดยเฉพาะเรื่องภาษาที่สอง สาม และสี่ ที่คุณควรพูดได้ ถึงแม้ว่าระบบการเรียนการสอนในโรงเรียนแถวบ้านตอนนั้นจะยังอ่อนด้อยกว่าโรงเรียนดังๆในตัวเมือง แต่ก็มีข้อดีในด้านอื่นๆอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องของกฎระเบียบ กติกามารยาท ในการอยู่ร่วมกันในสังคม เริ่มกันง่ายๆอย่างเช่น การที่เด็กนักเรียนทุกคนจะต้องมาโรงเรียนแต่เช้า เพื่อมาเข้าแถวตอนเรียงหนึ่ง รอเคารพธงชาติที่หน้าเสาธงในตอน แปดโมงเช้าของทุกๆวัน พร้อมกับท่องสวดมนต์ยามเช้าท้าทายพระอาทิตย์ดวงโตที่ปล่อยพลังงานแห่งความอบอุ่นที่บางทีก็ดูจะมากเกินไปหน่อย ทำให้เด็กๆทุกคนที่มาเรียนมีโทนสีผิวไปทางเดียวกันหมด ถือว่าได้เป็นการอาบแดดยามเช้ารับวิตามินบำรุงกระดูก พร้อมกับได้ผิวสีแทน แทนที่จะขาว แต่ฉันก็มองว่ามันเป็นเรื่องที่ดูน่ารักตามประสาเด็กๆ ที่คุณครูทุกท่านอบรมบ่มสอนกันว่า ทุกคนจะต้องยืนตัวตรง อกผาย ไหล่ผึ่ง เมื่อดนตรีขึ้น ให้ร้องเพลงชาติเสียงดังๆ ร้องให้เต็มเสียง ให้ดังกึกก้องไปทั่วโรงเรียน แล้วนักเรียนทุกคนก็พร้อมใจกันปฏิบัติเช่นนั้นเรื่อยมา
เข้าแถวร้องเพลงชาติไทย
ฉันก็เป็นเด็กอีกคนหนึ่งที่ได้รับการปลูกฝังแบบนั้น มันแทรกซึมเข้าไปเป็นนิสัยมาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อเวลาที่ได้ยินเสียงเพลงชาติไทยดังขึ้นตอนเช้าตามสถานที่สาธารณะ จะหยุดแล้วยืนตรงสงบนิ่ง เพื่อแสดงถึงความเคารพในความเป็นชาติที่มีเอกราช และฉันเป็นอีกคนหนึ่งที่รักชาติ ภาคภูมิใจที่ได้ร้องเพลงชาติไทย เพลงที่ไพเราะที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น