“ธงชาติและเพลงชาติไทย
เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ
ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย”
เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ
ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย”
เมื่อได้อ่าน ทุกคนต้อง อ๋อ!
สำหรับประชาชนชาวไทยทุกคนไม่ว่าจะ เด็กเล็ก หรือผู้ใหญ่
จะต้องเคยได้ยินเสียงนี้อย่างแน่นอน
เพราะมันเป็นเสียงขึ้นต้นก่อนเพลงชาติไทยจะมาในเวลา 8.00 น. กับ 18.00 น. นั่นเอง
บางคนถึงกับเอาไปล้อเลียน บางคนก็สามารถพูดตามได้
ก็คำขึ้นต้นเพลงนี้เปิดให้เราได้ยินอยู่ทุกๆวัน วันละสองเวลา รวมเวลากว่า 30
กว่าปีแล้ว ใครจำไม่ได้คงต้องพิจารณาตัวเองแล้วจริงๆ
หลายคนเคยได้ยินเพียงเสียงอันเข้มแข็งและดุดัน แต่ยังไม่มีใครรู้เลยว่า
เจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร
และเขามาเป็นเจ้าของเสียงนี้ได้อย่างไร
เจ้าของเสียงพูดคำเชิญชวนให้ประชนคนไทยทุกคนยืนตรงเคารพธงชาติก่อนเพลงชาติไทยจะบรรเลง
เขาผู้นั้นคือ คุณประพันธ์ หิรัญพฤกษ์ อดีตผู้ประกาศข่าวของกรมประชาสัมพันธ์
ปัจจุบันอายุ 74 ปีแล้ว ได้เกษียนราชการ
ขณะนี้ยังทำงานรับใช้มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา
สิริวัฒนาพรรณวดี แต่เดิมคุณประพันธ์ เป็นนักดนตรีอยู่วงสุนทราภรณ์
ต่อมาได้ทำการสอบผ่านเข้าทำงานรับราชการเมื่อปี พ.ศ. 2510 ที่กรมประชาสัมพันธ์
ในตำแหน่งผู้ประกาศข่าว รวมเวลาที่รับราชการกว่า 40 ปี
จุดเริ่มต้นที่ได้มาเป็นผู้พูดคำเชิญชวนให้ประชาชนยืนตรงเคารพธงชาตินั้นเริ่มจาก
คุณสุรินทร์ แปลงประสบโชค ผู้อำนวยการช่อง 11 เมื่อปี พ.ศ. 2524
เป็นผู้เขียนประโยคเหล่านั้นขึ้นมา แล้วให้คุณประพันธ์เป็นผู้อ่าน
ได้เริ่มออกอากาศตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 เรื่อยมาจนถึง ปี พ.ศ. 2554
คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ออกรายการรวมการเฉพาะกิจ
ได้ทำการว่าจ้างให้คุณประพันธ์ อัดเสียงใหม่ โดยใช้บทพูดเดิม
นั่นคือใช้เสียงเราปัจจุบันของคุณประพันธ์ จากนั้นได้ออกอากาศตั้งแต่วันที่ 1
ตุลาคม 2554 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันนี้
เรียกได้ว่าเป็นเสียงที่เป็นอมตะเลยก็ว่าได้
ทุกวันนี้เมื่อเราได้ยินเสียงๆนี้พูดประโยคนี้ในตอนเช้า
และเย็นของทุกๆวัน ก็เตรียมตัวรับรู้ได้เลยว่า ควรยืนตรงเพื่อเคารพธงชาติได้แล้ว
และบางครั้งหลายคนอาจไม่สะดวกที่จะยืนตรง หรือไม่สะดวกที่จะเปล่งเสียงร้องเพลง
อย่างน้อยๆก็ขอให้รำลึกและรู้สึกถึงบุญคุณของบรรพบุรุษ ที่กอบกูชาติไทย
ด้วยความภาคภูมิใจก็ยังดี ที่สำคัญที่สุด
ควรสืบทอดและส่งต่อธรรมเนียมปฏิบัตินี้ให้แก่เยาวชนรุ่นหลังให้พวกเขาเหล่านั้นเกิดความสำนึกรักชาติบ้านเกิดของตัวเองเปิดตัวเจ้าของเสียงที่คุ้นหูคนไทย |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น